บทความเกี่ยวกับเพื่อนสนิท (หมายถึงเพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนจริงๆ ที่ไม่ใช่แฟนนะ) สำหรับคนที่ไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเพื่อนสนิทศซักเท่าไหร่ :)
เพิ่งได้รับเมลจากใครบางคนมา เลยโพสให้อ่าน ใครเคยอ่านแล้วอย่าว่ากันนะ
เพื่อนสนิท คือ >เพื่อนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ดันไปสนิทกว่าเพื่อนธรรมดา ๆ ทั่วไป
> >.. ซึ่งมันก้อต้องมีอะไรหลาย ๆ อย่าง
>ที่คล้าย ๆ กับเรามากกว่าเพื่อนสนิทคนอื่น
>ถึงจะมาสนิทกันได้
> >..บางทีอาจไม่ใช่นิสัย
>..บางทีอาจไม่ใช่หน้าตา
>..บางทีอาจไม่ใช่ฐานะ
>..บางทีอาจไม่ใช่ระดับความรู้
> >..แต่มันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ต้องเป็น
>มันคนนี้เท่านั้นที่มี
เพิ่งได้รับเมลจากใครบางคนมา เลยโพสให้อ่าน ใครเคยอ่านแล้วอย่าว่ากันนะ
เพื่อนสนิท คือ >เพื่อนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ดันไปสนิทกว่าเพื่อนธรรมดา ๆ ทั่วไป
> >.. ซึ่งมันก้อต้องมีอะไรหลาย ๆ อย่าง
>ที่คล้าย ๆ กับเรามากกว่าเพื่อนสนิทคนอื่น
>ถึงจะมาสนิทกันได้
> >..บางทีอาจไม่ใช่นิสัย
>..บางทีอาจไม่ใช่หน้าตา
>..บางทีอาจไม่ใช่ฐานะ
>..บางทีอาจไม่ใช่ระดับความรู้
> >..แต่มันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ต้องเป็น
>มันคนนี้เท่านั้นที่มี
> > >..บางครั้ง
>..เราก้อไม่ไป ที่ที่เราอยากไป
>..เพียงเพราะว่ามันไม่ไปด้วย
> >..บางครั้ง
>..นั่งเงียบอยู่ได้ตั้งนาน แต่แค่เห็นหน้ามัน
>..น้ำตาที่กลั้นไว้แทบตาย กลับทะลักออกมาได้จนหมด
> >..บางครั้ง
>..ถ้ามีเสียงหัวเราะของมันด้วย
>..เราจะหัวเราะได้ดังกว่านี้
> >..บางครั้ง
>..ร้อยคำปลอบใจของใครก็ไม่รู้
>..ยังอุ่นใจไม่เท่า มือมันที่แค่ตบเบา ๆ ที่หัวไหล่
>..บอกเป็นนัยว่า "เราอยู่ตรงนี้"
> >ชอบคำนึงที่บอกว่า
>"เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อน แต่เราเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก"
>เพราะเพื่อนมีความสำคัญมาก ๆ
>มากจนบางคนแยกไม่ออก เอาไปเปรียบเทียบกับแฟน
>ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
>ทั้ง ๆ ที่มันคนละเรื่องกันเลย
> >แต่เมื่อเวลาเราอยู่ในห้วงของความรัก
>เพื่อนจะกลายเป็นส่วนเกินของโลกส่วนตัวเราทันที
>ไอ่เพื่อนสนิทเรามันคงจะชินแล้ว
>ที่เวลาเรามีรักทีไร เราก็จะห่าง ๆ มันไปทุกที
> >เวลาที่กลับมานึกถึงมันได้อีกที
>ก็ตอนอกหักนู้นแหละ
> >ก็คิดเหมือนกันนะ
>ถ้าเราเป็นมันจะรู้สึกยังไง
> >คงประมาณว่า
>" พอมีแฟนก้อลืมเพื่อน.. ทีกะเราแร้วไม่ช่วยอะไรเรย ทีกะแฟนแทบถวายหัว"
>"ต้องเลิกกะแฟนก่อน ถึงจะจำเบอร์เราได้ใช่ไหม"
> >คิด ๆ ดูแล้ว มันก้อเป็นแบบนั้นจริง ๆ
>เพราะเวลาที่กำลังมีความสุขในห้วงแห่งความรัก
>ก้อแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะมันเรย
>นาน ๆ ถึงจะได้คุยกัน
> >แต่พอผิดหวัง พอเจ็บตัวขึ้นมา
>นาทีนั้นอยากกดโทรศัพท์ไปหามันก่อน
> >ซึ่งบางทีมันนอนไปแร้ว เราก้อจะไล่มันกลับไปนอน
>ไม่ต้องตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราวใด ๆ ทั้งนั้น
>ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่มันรับโทรศัพท์ก้อพอแร้ว
> >แบบนี้หล่ะมั้งที่เค้าว่า
>เพื่อนคือคนที่สามารถนั่งอยุ่ด้วยกัน โดยไม่พูดอะไรสักคำ
>แต่ลุกจากกันไปได้เหมือนคุยกันไปนับล้านคำ
> >เพื่อน
>คือคนที่เมื่อเราสุข เราไม่เห็นมันอยู่ในสายตา
>แต่เป็นคนที่ไม่มีวันปล่อยให้เราล้มลง
>ไม่ว่าเราจะไปเจ็บมาจากไหน
>..เราก้อไม่ไป ที่ที่เราอยากไป
>..เพียงเพราะว่ามันไม่ไปด้วย
> >..บางครั้ง
>..นั่งเงียบอยู่ได้ตั้งนาน แต่แค่เห็นหน้ามัน
>..น้ำตาที่กลั้นไว้แทบตาย กลับทะลักออกมาได้จนหมด
> >..บางครั้ง
>..ถ้ามีเสียงหัวเราะของมันด้วย
>..เราจะหัวเราะได้ดังกว่านี้
> >..บางครั้ง
>..ร้อยคำปลอบใจของใครก็ไม่รู้
>..ยังอุ่นใจไม่เท่า มือมันที่แค่ตบเบา ๆ ที่หัวไหล่
>..บอกเป็นนัยว่า "เราอยู่ตรงนี้"
> >ชอบคำนึงที่บอกว่า
>"เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อน แต่เราเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก"
>เพราะเพื่อนมีความสำคัญมาก ๆ
>มากจนบางคนแยกไม่ออก เอาไปเปรียบเทียบกับแฟน
>ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
>ทั้ง ๆ ที่มันคนละเรื่องกันเลย
> >แต่เมื่อเวลาเราอยู่ในห้วงของความรัก
>เพื่อนจะกลายเป็นส่วนเกินของโลกส่วนตัวเราทันที
>ไอ่เพื่อนสนิทเรามันคงจะชินแล้ว
>ที่เวลาเรามีรักทีไร เราก็จะห่าง ๆ มันไปทุกที
> >เวลาที่กลับมานึกถึงมันได้อีกที
>ก็ตอนอกหักนู้นแหละ
> >ก็คิดเหมือนกันนะ
>ถ้าเราเป็นมันจะรู้สึกยังไง
> >คงประมาณว่า
>" พอมีแฟนก้อลืมเพื่อน.. ทีกะเราแร้วไม่ช่วยอะไรเรย ทีกะแฟนแทบถวายหัว"
>"ต้องเลิกกะแฟนก่อน ถึงจะจำเบอร์เราได้ใช่ไหม"
> >คิด ๆ ดูแล้ว มันก้อเป็นแบบนั้นจริง ๆ
>เพราะเวลาที่กำลังมีความสุขในห้วงแห่งความรัก
>ก้อแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะมันเรย
>นาน ๆ ถึงจะได้คุยกัน
> >แต่พอผิดหวัง พอเจ็บตัวขึ้นมา
>นาทีนั้นอยากกดโทรศัพท์ไปหามันก่อน
> >ซึ่งบางทีมันนอนไปแร้ว เราก้อจะไล่มันกลับไปนอน
>ไม่ต้องตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราวใด ๆ ทั้งนั้น
>ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่มันรับโทรศัพท์ก้อพอแร้ว
> >แบบนี้หล่ะมั้งที่เค้าว่า
>เพื่อนคือคนที่สามารถนั่งอยุ่ด้วยกัน โดยไม่พูดอะไรสักคำ
>แต่ลุกจากกันไปได้เหมือนคุยกันไปนับล้านคำ
> >เพื่อน
>คือคนที่เมื่อเราสุข เราไม่เห็นมันอยู่ในสายตา
>แต่เป็นคนที่ไม่มีวันปล่อยให้เราล้มลง
>ไม่ว่าเราจะไปเจ็บมาจากไหน
No comments:
Post a Comment